สรุปผล : ( พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ) แมนฯ ซิตี้ 2 – 3 แมนฯ ยูไนเต็ด 07 เมษายน 2561

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2561
แมนฯ ซิตี้ 2 – 3 แมนฯ ยูไนเต็ด
Manchester City 2 – 3 Manchester United

 

สนาม : กูดิสัน พาร์ค

เรือใบสีฟ้า จัดทัพแบบไร้หน้าเป้าอาชีพ อีกทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ โดนดร็อปก่อนเกม ชปล. กับ ลิเวอร์พูล ช่วงกลางสัปดาห์ โดยมี ลีรอย ซาเน่, ราฮีม สเตอร์ลิง และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ทำเกมรุก ขณะที่บนม้านั่งสำรองได้ เซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน” ฟิตกลับมา เกมนี้ หากว่า แมนฯ ซิตี้ ชนะได้ จะการันตีตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกทันที

ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด มาเต็ม มีทั้ง ปอล ป็อกบา, อเล็กซิส ซานเชซ, โรเมลู ลูกากู แถมได้ อันเดร์ เอร์เรร่า หายเจ็บคืนตัวจริงทันที

แมนฯ ซิตี้ ครองบอลบุกใส่เพื่อนบ้าน น.6 ดาบิด ซิลบา ขึ้นเกมทางซ้ายแล้วตวัดเข้ากลาง แอชลี่ย์ ยัง ลื่นก่อนมือไปโดนบอล นักเตะเจ้าบ้านเรียกร้องจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร

แมนฯ ยูไนเต็ด ถอยลงไปตั้งรับแล้วรอจังหวะเหมาะสวนกลับ แต่เกือบโดนในน.20 จากความผิดพลาดในแนวรับ ยังดีที่ ดาบิด เด เคอา ใช้ขาบล็อกลูกยิงของ แบร์นาโด้ ซิลบา เอาไว้ได้

กระทั่ง น.25 เรือใบสีฟ้า ทะยานนำ 1-0 เมื่อได้ลูกเตะมุมทางซ้าย ลีรอย ซาเน่ เปิดเตะมุมโค้งมาให้ แว็งซ็องต์ ก็องปานี สลัดหนีตัวประกบแล้วเทกตัวโหม่งตุงตาข่าย

แมนฯ ซิตี้ ได้ใจ อีกแค่ 5 นาทีต่อมาหรือน.30 ก็หนีเป็น 2-0 เมื่อ สเตอร์ลิ่ง เปิดให้ อิลคาย กุนโดกัน หมุนตัวหลบประกบแล้วยิงเสียบเสาสองงดงาม ชนิดที่ เด เคอา หมดสิทธิ์ป้องกัน

แนวรับ ปีศาจแดง ระส่ำ หวิดโดนเพิ่มหลายครั้ง แต่สุดท้ายยังรอดได้ จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ นำ 2-0 โดยที่รูปเกมเหนือกว่าผู้มาเยือนทุกเหลี่ยมมุม

ครึ่งหลัง เรือใบสีฟ้า ยังดีกว่า น.51 สเตอร์ลิ่ง ดึงจังหวะแล้วไหลให้ กุนโดกัน สอดขึ้นมาแป ลูกลอยไปชนกรอบประตูอย่างน่าเสียดาย

แต่เข้าสู่น.53 แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ตีไข่แตกเป็น 2-1 เมื่อ อเล็กซิส เปิดจากขวาเข้าไปให้ เอร์เรร่า พักอกต่อให้ ป็อกบา ซัดเผาขนไม่เหลือซาก

จากนั้น แค่สองนาทีถัดมาหรือน.55 เสียงเชียร์แฟนผีกระหึ่ม เมื่อ อเล็กซิส บรรจงหยอดให้ ป็อกบา สอดขึ้นมาโขกเสียบตาข่ายชนิดที่กองเชียร์ซิตี้อึ้งทั้งสนาม ขยับสกอร์เท่ากัน 2-2

เกมสนุกเข้มข้น แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นกันอย่างมั่นใจขึ้น กล้าบุกกว่าเดิม เจสซี่ ลินการ์ด มีโอกาสส่องไกลส่งบอลถากเสาแบบได้ลุ้นเมื่อเกมผ่านมาถึงหนึ่งชั่วโมง ขณะที่ สเตอร์ลิ่ง โดนใบเหลืองจากการไปหยุด ลูกากู

น.69 ปีศาจแดง แซงนำเหลือเชื่อ 3-2 เมื่อได้ฟรีคิกด้านขวา อเล็กซิส เรียกได้ ก่อนลุกมาเปิดให้ คริส สมอลลิ่ง เติมขึ้นมาซัดโล่งๆ ทำเอากองเชียร์เจ้าถิ่นเงียบกริบ

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อยู่ไม่ได้ ต้องส่ง กาเบรียล เชซุส และ เควิน เดอ บรอยน์ แทน ดาบิด ซิลบา และ แบร์นาโด้ ซิลบา จากนั้น กุน แทน กุนโดกัน

แมนฯ ซิตี้ ร้องจะเอาจุดโทษจากจังหวะที่ กุน โดนหวด ทว่าผู้ตัดสินไม่ให้ ก่อนที่ แฟร์นานดินโญ่ จะโดนใบเหลืองหลังอัด ลินการ์ด จากนั้น เกมเริ่มเดือด ป็อกบา โดนเหลืองอีกรายจากการไปเตะ โอตาเมนดี้

มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ถูกเปลี่ยนลงมา ก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ หวิดได้ลูกตีเสมอท้ายเกม แต่ เด เคอา โชว์ซูเปอร์เซฟเหลือเชื่อ และจังหวะต่อมา ลูกยิงเผาขนของ สเตอร์ลิ่ง ไปชนเสาแล้วเด้งมาติด เด เคอา

ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่ม และหลังทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เอาชนะไปสุดมันส์ 3-2 รั้งอันดับสองเหนียวแน่น พร้อมกับชะลองานฉลองแชมป์ของเพื่อนบ้านไปก่อน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, ดานิโล่, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, นิโกลัส โอตาเมนดี้, ฟาเบียน เดลฟ์, อิลคาย กุนโดกัน (เซร์คิโอ อเกวโร่ น.76), แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา (เควิน เดอ บรอยน์ น.72), แบร์นาร์โด้ ซิลวา (กาเบรียล เชซุส น.72), ราฮีม สเตอร์ลิง, ลีรอย ซาเน่

สำรองไม่ได้ใช้ : เคลาดิโอ บราโว่, ไคล์ วอล์คเกอร์, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, ยาย่า ตูเร่

แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เอริก ไบยี่, คริส สมอลลิ่ง, แอชลี่ย์ ยัง, อันเดร์ เอร์เรร่า (วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ น.90), เนมานย่า มาติช, ปอล ป็อกบา, เจสซี่ ลินการ์ด (สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ น.85), โรเมลู ลูกากู, อเล็กซิส ซานเชซ (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.82)

สำรองไม่ได้ใช้ : โชเอล เปเรยร่า, มาร์กอส โรโฮ, ฆวน มาต้า, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน


ที่มา : Siamsport